Here comes THAT part of the trip. The non-academic-leisure-only part shortly after the conference ended where we spent likely a week taking a tour in the northern part of Italy. Despite the fact the I used to live in Italy for a year and had been quite many places from Bolzano to Lecce, I still missed Toscany, the region in which owns the most beautiful cities of all according to some of my friends. So being back in Italy this time, apart from various cities, big ones and small ones, we went to Pisa, Florence, and Cinque Terre in Liguria.
ว่ากันถึงส่วนของทริปหลังจากที่งานประชุมจบลง พวกเราใช้เวลาที่เหลือเที่ยวหลายๆแคว้นทางเหนือของอิตาลี ถึงเราจะเคยอยู่ที่นี่เป็นปี ไปมาแล้วก็หลายที่ จาก Bolzano ถึง Lecce แต่ตอนนั้นเราก็ยังพลาด ไม่ได้เก็บแคว้น Toscany ซึ่งก็คือแคว้นที่เพื่อนๆเราหลายคนบอกกับเราว่าที่นี่สวยที่สุดแล้ว
กลับมาอิตาลีคราวนี้นอกจากจะไปเที่ยวเมืองนั้นเมืองนี้แล้ว เราก็ได้เพิ่มเมืองที่ยังไม่เคยไป ซึ่งก็คือ Pisa กับ Florence และ Cinque Terre ที่อยู่ในแคว้น Liguria ไปในแพลนด้วย
กลับมาอิตาลีคราวนี้นอกจากจะไปเที่ยวเมืองนั้นเมืองนี้แล้ว เราก็ได้เพิ่มเมืองที่ยังไม่เคยไป ซึ่งก็คือ Pisa กับ Florence และ Cinque Terre ที่อยู่ในแคว้น Liguria ไปในแพลนด้วย
No doubt I was the one who organized the trip because I tend to know what and where best comparing to my friends whose this trip, if I am correct, was their first time in Italy. Imagine 3 girls traveling around the North with 3 large luggages. It was challenging.
Toscany was sweet. Florence was so rich of its architecture and its people gave me the feel some how that this city is special in the way it holds a lot of stories. Pisa was smaller than I expected. Liguria's Cinque Terre pleased me to the max even though we visited only one out of five lands, Riomaggiore. Note: Cinque Terre means the Five Lands in Italian. Standing there and I can imagine myself enjoying the summer breeze already(it was actually spring).
ถ้าจำไม่ผิดการมาเที่ยวอิตาลีครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของเพื่อนๆ ตำแหน่งผู้จัดการทริปเลยตกเป็นของเราเพราะเราเป็นคนที่คุ้นเคยและรู้จักที่นี่ดีที่สุด การวางแผนทริปดูเหมือนจะง่ายๆไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องท้าทายอยู่ เพราะนอกจากเรา 3 คนแล้วก็ยังมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆหนักๆที่ต้องไปกับเราด้วยอีก 3 ใบ เราเลยต้องหาวิธีที่ทำให้การเดินทางลำบากน้อยที่สุด
Toscany สวยจริงๆ ด้วยสถาปัตยกรรมมีเอกลักษณ์ ผู้คนเดินขวักไขว่ตามสถานที่ต่างๆ ให้ความรู้สึกว่าฟลอเรนซ์มีเรื่องราว และความพิเศษในตัวมันเอง ส่วนเมืองปิซ่าก็เป็นเมืองที่เล็กกว่าที่เราคิดไว้ เราประทับใจ Cinque Terre ในแคว้น Liguria มากถึงแม้เราจะได้ไปแค่ Riomaggiore หนึ่งในห้าหมู่บ้านของมันเท่านั้น (ปล. Cinque Terre แปลว่า ห้าดินแดน/เมือง แต่มีฟีลเหมือนหมู่บ้าน) ตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็จะเย็นๆหน่อย เรานี่จินตนาการไปถึงฤดูร้อนแล้ว ที่นี่คงจะดีมากๆ
After spending days and nights in the upper left side of the country, it took us almost a half day on train to arrive in the upper right part where the water looked pretty much calmer and things looked more tranquil. This was my second time in Venice after my first time in 2013 when I was an exchange student and promised myself to get lost and keep what I saw in my memory(on this first time) and then come back to wander and take pictures(on the second time). I am lucky enough to have a friend living nearby who happens to know the city no better than the locals. Now I am more than 100% sure I won't get lost.
หลังจากเที่ยวฝั่งซ้ายของอิตาลีไป พวกเราก็มาถึงฝั่งขวาของอิตาลีที่หลายๆอย่างดูสงบกว่า ใช้เวลานั่งรถไฟไปทั้งสิ้นเกือบครึ่งวัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของเราในเวนิสหลังจากครั้งแรกในปี 2013 สมัยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนนั้นเราบอกกับตัวเองว่าโอเคหลงได้ ถือว่าเป็นการสำรวจสถานที่ รูปก็ไม่ค่อยได้ถ่ายเพราะมัวแต่หลง ครั้งต่อไปค่อยมาเก็บรายละเอียด เราโชคดีที่มีเพื่อนที่อยู่แถวนี้ แถมยังรู้จักเวนิสดีอย่างกับคนท้องถิ่น เลยถือโอกาสนัดเที่ยวกัน มาเวนิสครั้งนี้ไม่หลงแน่นอน
My final days in Italy were well spent with my friends and families in Bergamo, Piacenza, and Milan. I spare one night on each one of the cities despite how much I wish to stay longer. From Venice I took my friends to my home at the lakeside of Lago d'Iseo in Bergamo. Seriously this place is where I am proud of and I wanted to share it with my loved ones, from my favorite gelateria, the piazza, to the walkway by the lake are beautiful.
ช่วงท้ายของทริปเรากลับไปเยี่ยมโฮสต์แฟมิลี่และเพื่อนๆที่ Bergamo, Piacenza และ Milan พักแต่ละเมืองเมืองละแค่หนึ่งคืนถึงในใจอยากจะค้างบ้านละสักหนึ่งอาทิตย์ก็ตาม จากเวนิสเราพาเพื่อนๆไปที่บ้านใกล้ๆทะเลสาบ Iseo ตั้งอยู่ในเขตเมือง Bergamo ที่นี่เป็นที่ๆเราภูมิใจนำเสนอมากๆและอยากพาทุกคนที่เรารักไปสักครั้ง ไปเดินเล่นริมทะเลสาบ จตุรัสกลางเมือง ไปนั่งกินไอติมที่ร้านโปรด
The next day I sent my friends off in Milan, shopping and chilling, and departed on my own to Piacenza to meet another host family. I was very excited and I know they also were. I took the same train, the same bus riding on the same road I used to get home everyday after school. It almost felt the same way I felt on the first time I arrived on this home, that time I was scared because I had no idea who actually was I heading to, this time there was no such feeling at all.
บ้ายบายทะเลสาบแล้ว พวกเรานั่งรถไฟมุ่งหน้าสู่มิลาน และจะขึ้นเครื่องบินกลับบ้านจริงๆในอีก 2 วัน ส่งเพื่อนลงที่สถานีแล้ว เราก็นั่งรถไฟไปต่อที่เมือง Piacenza เพื่อที่จะไปเยี่ยมโฮสต์แฟมิลี่อีกบ้านนึง เราตื่นเต้นมากเพราะได้มีโอกาสนั่งรถกลับบ้านแบบนี้ ผ่านถนนเส้นเดิมเวลากลับบ้านจากโรงเรียน เรารู้ว่าพวกเค้าก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน นึกถึงวันแรกที่มาที่บ้านหลังนี้ ตอนนั้นเราก็ตื่นเต้นแบบนี้ แต่กลัวมากกว่าเพราะไม่รู้ว่าครอบครัวนี้จะเป็นยังไง จะใจดีกับเรามั้ย จะรักเรามั้ย
...การนั่งรถกลับบ้านครั้งนี้เราไม่รู้สึกกลัวเลย
I went back in Milan to see an old friend and I stayed in her apartment for hours to see her packing things as on that particular day she had a flight home to catch. It didn't bother me because I had been in Milan for a several times and was aware that going out might get me spending money on shopping. However, we spare a few hours before she had to leave hanging out in the central. That was very rush though but we did it, and Milan was lively as always. Then we said good byes and there she went, on an airplane, to her motherland. The next day was my turn. I realized my time in Italy has come to an end (for now) as well. Can I miss the authentic Italian pizzas already?
ผ่านไป 1 คืนเรากลับมาที่มิลาน มีเพื่อนเก่าชาวตุรกีรอรับอยู่ เธอพาเราไปที่อพาร์ทเมนต์ ไปนั่งเล่นรอเธอจัดกระเป๋าเพราะวันนั้นเธอมีไฟล์ทบินกลับบ้าน จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้แย่นะที่ต้องมานั่งเล่นเกือบครึ่งวันที่อพาร์ทเมนต์แต่กลับรู้สึกว่าดีกว่าออกไปเดินเล่นข้างนอกเพราะงั้นคงได้เสียเงินช้อปปิ้งแน่ ยังไงก็ตามพวกเราก็ได้เผื่อเวลาแฮงค์เอ้าท์ด้วยกันสัก 3-4 ชั่วโมงในเมือง มิลานวุ่นวาย(มีชีวิตชีวา)ยังไงก็วุ่นวายอย่างงั้น เมื่อเวลาเที่ยวเล่นหมดก็ถึงเวลาบอกลา แล้วเธอก็กลับบ้าน ส่วนวันพรุ่งนี้ก็ถึงตาเราบ้าง ต้องบ้ายบายอิตาลีแล้วสินะ คิดแค่นี้ก็รู้สึกคิดถึงพิซซ่าอิตาเลี่ยนแท้ๆแล้ว
At the end, I was so happy and grateful to be able to visit my host families, have small talks with nonne. Especially the nonne, they get older and older every year(one of them has just turned 93 last week). It makes my heart warm that they still remembered me after 3 years since I left even though my name might not come out of their tongue at the first second. Three years that a lot of things have changed, for better or for worse. I have changed too. At the same time memories remain, even though sometimes they seem to be hiding somewhere, waiting to be recalled.
เราดีใจมากๆที่ได้กลับไปเยี่ยมทุกคน ได้คุยกับคุณยาย โดยเฉพาะคุณยายเนี่ย ท่านก็มีแต่แก่ขึ้นๆ(คุณยายคนนึงของเราเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 93 ปีไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง) มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นใจที่เห็นว่าพวกเค้า(คุณยาย)ยังจำเราได้ ถึงแม้อาจจะต้องใช้เวลานิดนึงในการนึกชื่อเรา
ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาเราเห็นหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลง ทั้งในทางที่ดีขึ้นและแย่ลง เราเองก็ยังเปลี่ยนเลย ในขณะที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ความทรงจำก็ยังคงอยู่ แม้บางทีมันอาจจะหลบไปซ่อนบ้าง แต่ก็เป็นการซ่อนเพื่อรอให้ถูกระลึกถึงขึ้นมา
X
T. Mind R.
No comments:
Post a Comment